MCU · My Fiction

𝘎𝘰𝘰𝘥 𝘛𝘰𝘨𝘦𝘵𝘩𝘦𝘳

Pairing: Carolnat

Rate: ใสๆไปเรย!

 

 

– 𝘎𝘰𝘰𝘥 𝘛𝘰𝘨𝘦𝘵𝘩𝘦𝘳 –

 

 

ดวงอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้า นาฬิกาบ่งบอกเวลายามเย็นที่แสงสีส้มย้อมท้องฟ้าเป็นสีสันที่ดูแปลกตากว่ายามกลางวัน พลันแสงจากไฟประดับดวงเล็กดวงน้อยที่ห้อยไว้ตามจุดต่างๆของบริเวณงานเทศกาลในหน้าร้อนก็โดดเด่นขึ้นมาทันตา

 

 

แครอลกดชัตเตอร์ถ่ายภาพคู่เด็กชายหญิงที่กำลังรับขนมสายไหมมาจากคนขาย ภาพพื้นหลังเป็นคุณแม่ของเด็กน้อยและคนรอบข้างมองมาทีาเด็กสองคนอย่างเอ็นดู เธอเดินเข้าไปหาคนเป็นแม่แล้วเปิดรูปที่เธอเพิ่งถ่ายได้ให้หล่อนดู พร้อมกับขอคอนแทคส์ที่เธอสามารถส่งรูปให้ได้

 

 

งานอดิเรกของเธอคือการถ่ายภาพ และเธอมักจะส่งรูปนั้นๆให้บุคคลที่ปรากฎอยู่ในรูปถ่าย ในทางกลับกันเธอก็ยินดีที่จะลบรูปหากว่าเจ้าของนั้นไม่อนุญาตให้เธอถ่าย

 

 

แครอลเดินไปเรื่อยๆผ่านร้านต่างๆที่แข่งกันแต่งให้สีสันสดใส ที่เธอประทับใจที่สุดคงเป็นรถเข็นขายป๊อปคอร์นนี่แหละ มันดันอยู่ตำแหน่งที่มีชิงช้าสวรรค์และไฟประดับหลายดวงเป็นฉากหลังพอดี

 

 

เธอเปิดดูรูปที่เพิ่งถ่ายไป

 

 

มันเป็นไปตามคอนเซปต์ที่เธอต้องการ แครอลอมยิ้มนิดๆ พลันสายตาก็ไปเจออะไรที่น่าสนใจในภาพถ่าย

 

 

ผู้หญิงผมบลอนด์ที่หอบถังป๊อปคอร์นและกำลังเดินจากไป ถ้าเธอมองไม่ผิดคนในรูปถ่ายก็สะพายกล้องรุ่นเดียวกับเธอไว้ที่คอ แครอลรู้สึกสนใจผู้หญิงในรูปถ่ายขึ้นมาทันที แต่พอละสายตาจากกล้องแล้วกวาดสายตาไปรอบๆก็ไม่เห็นวี่แววของผู้หญิงคนนั้นเสียแล้ว

 

 

” หายไปไหนนะ ”

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

แครอลไม่รู้ว่าจะหาเธอคนนั้นเจอได้จากที่ไหน

 

 

ทั้งที่ก็ไม่ใช่พื้นที่จัดงานที่ใหญ่โตอะไรแต่กลับหาอีกฝ่ายไม่เจอราวกับว่าเธอคนนั้นมาแค่เพื่อซื้อป๊อปคอร์นแล้วตรงดิ่งกลับบ้านเลยอย่างนั้นแหละ

 

 

แครอลถอนหายใจ ทิ้งตัวนั่งลงตรงที่ว่างที่เหลือจากการจับจอง แล้วเสียงโห่ร้องอย่างตื่นเต้นก็ดังไม่ไกลจากเธอ ตรงนั้นมีการแสดงโชว์ของนักมายากลกับตัวตลกกำลังแจกอมยิ้มให้คนโดยรอบ คู่รักหลายคู่แอบอิงกันชมกาีแสดงตรงหน้า แครอลคิดว่าภาพนั้นมันน่ารักดี และแน่นอนเธออยากที่จะเก็บภาพน่ารักๆนั่นไว้

 

 

แชะ

 

 

เสียงชัตเตอร์ที่เธอค่อนข้างมั่นใจว่าไม่ใช่ของเธอภึงแม้ว่ามันจะดังในจังหวะเดียวกัน เธอหันซ้ายขวาค้นหาต้นเสียง สีบลอนด์ของเส้นผมที่ถูกลมปะทะเบาๆ กับสันจมูกจากใบหน้าด้านข้างของผู้หญิงคนนั้นดูเด่นสะดุดตาออกจากผู้คนโดยรอบ

 

 

แครอลกดชัตเตอร์ในขณะที่ใบหน้านั้นกำลังหันมา

 

 

มือเรียวหมุนเลนส์ปรับโฟกัสพร้อมกันกับที่คนในกรอบโฟกัสค่อยๆคลี่ยิ้มให้กล้องของเธอ

 

 

หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่ได้สัมผัสมานาน เธอรับรู้ได้ทันทีว่ากำลังตกหลุมรัก

 

 

ผู้หญิงคนนั้นยกกล้องมาถ่ายแครอลเช่นกัน ก่อนจะเดินตรงมาหาเธอ

 

 

“ไง”

 

 

” ส..สวัสดี” แครอลตอบกลับตะกุกตะกัก รู้สึกว่ามือไม้มันเกะกะไม่รู้ว่าควรจะยกขึ้นมาโบกทักทายอย่างเป็นมิตรหรือยื่นออกไปจับทักทาย สุดท้ายก็เลือกที่จะเก็บมันเข้ากระเป๋าหลังกางเกงยีนส์

 

 

อีกฝ่ายชูกล้องขึ้นมาตรงหน้า

 

 

” เป็นสาวกเจ้ากล้องรุ่นนี้เหมือนกันสินะ ” อีกฝ่ายพูดอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วมองมาที่กล้องของแครอลอย่างพิจารณา

 

 

” อืมม รุ่นใหม่กว่าด้วย ”

 

 

แครอลพยักหน้าหงึกๆ

 

 

ทั้งคู่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกล้องและเทคนิคต่างๆในการถ่ายภาพวิวกลางคืนเธอชื่อนาตาชาและเธอก็ใจดีพอที่จะไม่ถือสาอะไรเมื่อแครอลเผลอเรียกว่าแนทราวกับว่าเรารู้จักกันมานาน สไตล์การถ่ายภาพของแนทไม่ต่างอะไรจากเธอมากเท่าไหร่นัก พวกเราคุยกันนานพอสมควรที่จะรู้ว่าอีกฝ่ายสนใจอะไร และเผอิญว่าความสนใจของพวกเรามันดันเหมือนกันด้วยนี่สิ

 

 

แครอลไม่ใช่คนข่างพูด แต่วันนี้เธอกลับพูดเยอะกว่าทั้งปีที่ผ่านมาเสียอีก คงต้องยกความดีให้แนทด้วยเช่นกันเพราะเธอเป็นคนคุยเก่งแถมมั่นใจในตัวเองมากๆด้วยล่ะ มีหลายครั้งเลยที่เธอไม่ทันฟังเนื้อความที่แนทพูดเพราะเธอดันไปสนใจใบหน้าที่กำลังพูดถึงสิ่งที่ชอบมากกว่า

 

 

ดูมีความสุขจังเลยนะ อดไม่ได้ที่จะคิดแบบนี้

 

 

” ต้องไปแล้วล่ะ ”

 

 

แครอลรู้สึกเสียศูนย์ไปเล็กน้อย

 

 

” ต้องกลับแล้วเหรอ? ” ไม่อยากให้กลับเลย

 

 

” อืม ” แนทลุกขึ้น บิดตัวเล็กน้อย ” สนุกมากเลยวันนี้ ”

 

 

“แต่เรารู้สึกว่าแทบไม่ได้คุยอะไรเลยนะ ฮ่าๆ” แครอลพิงพนักเก้าอี้ แสร้งดูดน้ำจากแก้วแดงขาวเสียงดังเพื่อเรียกเสียงหัวเราะจากคนผมบลอนด์

 

 

” คิดมากไปแล้ว ” แนทหัวเราะคิกคัก ” ไปแล้วนะ บาย ” พร้อมกับหันมาฉีกยิ้มแล้วโบกมือ แครอลตอบกลับเช่นเดียวกัน แล้วมองแนทหันหลังจากไปจนลับสายตาโดยที่ไม่คิดจะเรียกรั้งเธอไว้แม้ว่าจะอยากทำมากแค่ไหนก็ตาม

 

 

การตกหลุมรักครั้งนี้มันเร็วไปมันทำให้เธอกลายเป็นคนขี้ขลาดขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

บางทีการปล่อยให้สมองโล่งได้คิดอะไรสักพักก็ดีเหมือนกัน แครอลยังนั่งอยู่ที่เดิม แค่เปลี่ยนอริบทมาเป็นนั่งกางแขนกางขาให้เต็มม้านั่งเพื่อแสดงว่าตนได้จับจองพื้นที่ตรงนี้เต็ม100%และห้ามใครเข้ามายุ่ง

 

 

ถึงจะดูเห็นแก่ตัว แต่ขออยู่คนเดียวสักพักเถอะ

 

 

แครอลรู้ว่าการตกหลุมรักครั้งนี้มันเร็วกว่าก่อนๆ

 

 

แต่เธอเองก็รู้ว่าการตกหลุมรักครั้งนี้มันลึกกว่าครั้งไหนๆเช่นกัน

 

 

แครอลแกจะปล่อยไปจริงๆเหรอ

 

 

เธอถามตัวเองอีกครั้ง

 

 

” … ”

 

 

แครอลกดดูรูปในกล้อง เลื่อนไปเรื่อยๆจนมาหยุดที่รูปแนทกำลังยิ้ม

 

 

เธอเป็นผู้หญิงที่คุยเก่ง เสียงเซ็กซี่นั่นฟังเพลินขนาดไหนตัวเธอเองคงไม่รู้หรอก

 

 

เธอมั่นใจในตัวเองแถมยังตัวหอมมากๆอีกด้วย

 

 

โดยรวมๆแล้วแนทเป็นผู้หญิงตัวเล็ก…แต่ความน่ารักของเธอมันดันเท่าโลกซะได้

 

 

และแครอลเองก็ไม่คิดว่าตัวเองจะแอบถ่ายรูปแนทมาเยอะขนาดนี้อีกด้วย

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

” Damn it!” แครอลสบถ

 

 

“ตัวก็เล็กแค่นี้แต่ทำไมถึงได้น่ารักจังวะ!”

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

แครอลตามหาเจ้าของผมสีบลอนด์ที่น่ารักเท่าโลกสำหรับเธออย่างกระวนกระวายไปทั่วงาน เธอหอบน้อยๆจากการเดินที่ไม่ได้หยุดพักเลยเกือบๆชั่วโมง

 

 

แนทบอกว่าต้องไปแล้วล่ะ แต่เธอไม่ได้บอกว่าจะกลับนี่ แครอลรู้ว่าบางทีมันอาจจะหมายความตรงข้ามกับที่เธอคิด แต่ยังไงเธอก็ยังแอบหวังอยู่ดีว่าแนทจะยังไม่กลับจริงๆ

 

 

และก็ยังแอบหวังไปอีกว่าแนทอาจจะรออยู่ที่ไหนสักที่

 

 

รู้ว่าแอบหวังมากเกินไปกับคนที่เพิ่งเคยเจอกันครั้งแรก แต่ช่วยไม่ได้ อีกฝ่ายดันหยิบหัวใจเธอติดมือไปด้วยไง จะไม่ให้ตามหามันก็จะดูไม่เหมาะสมกับความเป็นเจ้าของ

 

 

ดนตรีบรรเลงกับกลิ่นหอมๆของขนมและคาราเมลจากร้านป๊อปคอร์นลอยล่องในอากาศให้ประสาทสัมผัสได้รับรู้ ตอนนี้เวลาเริ่มดึกลงเรื่อยๆและอากาศก็ลดลงจากตอนกลางวันเช่นกัน เธอมองตามดวงไฟไปจนไปถึงจุดกำเนิดแสงหลายสีสันขนาดใหญ่ที่กำลังหมุนอย่างเอื่อยเฉื่อย

 

 

แนทยืนอยู่ตรงนั้น…ที่ทางขึ้นชิงช้าสวรรค์วงใหญ่นั่น ผมสีบลอนด์ของเธอสะท้อนไฟนีออนหลากสีที่เป็นฉากหลัง เธอกำลังยิ้มให้แครอล

 

 

หัวใจที่ห่อเหี่ยวลงไปชั่วครู่กลับมากระปรี้กระเป่าอีกครั้ง พอเห็นหน้าอีกฝ่ายก็รู้กสึกเหมือนถูกเติมด้วยของหวานๆจนเต็มตัว แม้จะรู้ว่ามดอาจจะขึ้นมากัดกินความหอมหวานแต่เธอก็ยอมที่จะไขว่คว้าความรู้สึกที่ยากจะต้านทานแบบนี้เอาไว้

 

 

ครั้งนี้จะไม่ปล่อยเดินหายไปง่ายๆอีกแล้ว

 

 

“ไง” แครอลเป็นคนเริ่มทักทาย แนทตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม

 

 

” Hey”

 

 

“ไหนบอกว่าต้องไปแล้วไง” แครอลถามขณะที่ยื่นแบงค์ดอลล่าให้พนักงานขายตั๋ว

 

 

“ก็ไม่ได้บอกว่าจะกลับนี่” แนทตอบกลับอย่างหยอกล้อพร้อมยักไหล่เล่นหูเล่นตา

 

 

แครอลหัวเราะเบาๆแล้วส่ายหน้า เธอได้เรียนรู้อีกอย่างว่าแนทเองก็ขี้แกล้งเหมือนกัน

 

 

“แสดงว่าคืนนี้ว่าง”

 

 

“แล้วถ้าเราตอบว่าไม่?”

 

 

“ไฟล์ทบังคับ ถ้างั้น”

 

 

ทั้งคู่หัวเราะพร้อมกัน แครอลชูตั๋วสองใบแล้วโบกตรงหน้าคนตัวเล็ก

 

 

“ว่างคุยกันทั้งคืนมั้ย? ”

 

 

คำถามของแครอลทำให้แนทอมยิ้มอย่างเขินอาย เธอหูแดงและแครอลก็ไม่ได้บอกเพราะว่ามันน่ารักมากๆ

 

 

“ถามอย่างนี้ค่อยน่าฟังหน่อย”

 

 

แนททำหน้าครุ่นคิดก่อนจะมองตรงมาทางแครอล คนตัวเล็กกว่าค่อยๆเขยิบเข้ามาจนแทบจะชิดกัน กลิ่นหอมๆจากแนททำให้หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ยิ่งคนตัวเล็กเขย่งเท่าใกล้เข้ามาเรื่อยๆแครอลยิ่งทำตัวไม่ถูก เธอจึงเลือกที่จะหลับตาลงและรู้สึกถึงแรงมือของคนตรงหน้าที่ดึงแขนเสื้อเธอให้โน้มต่ำลงไป

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

“ไปซื้อป๊อปคอร์นก่อนนะ”

 

 

” … ”

 

 

แครอลกลั้นหัวเราะเพราะได้ยินเสียงหัวเราะที่เล็ดลอดออกมากจากปากคนตรงหน้า ดูเหมือนว่าแนทเองจะกลั้นหัวเราะไม่อยู่เพราะแกล้งเธอได้สำเร็จอีกครั้ง

 

 

แล้วทั้งคู่ก็ขำพรืดทั้งที่หลับตานั่นแหละ

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

: PHOTO SENT❤️💛

 

 

END

☺️

Leave a comment