MCU · My Fiction

[Carolnat] Perfect Places II

Perfect Places

[ CarolNat ]

-2-

 

“ไง” คำทักทายสั้นๆที่ไม่ได้มีความหมายพิเศษอะไรออกมาจากปากเจ้าของห้อง นาตาชากระพริบตาปริบ แล้วก็มีความเงียบที่โรยตัวลงมาปกคลุมบรรยากาศระหว่างทั้งสองอยู่นานนับนาที

 

ทั้งสองยังคงยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครขยับจากตำแหน่งเดิม และมันก็นานมากพอที่จะให้นาตาชานักสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่างที่แปลกออกไปจากแครอลคนเดิมในความทรงจำ

 

อย่างแรกคือสรีระ แครอลคนตรงหน้าสูงกว่าแครอลในความคิดของเธอตั้งหลายเท่า แครอลคนนี้ผอมลงไปเยอะมากเมื่อเทียบกับแครอลแก้มยุ้ยคนเดิม แครอลคนนี้ใส่เสื้อผ้าโชว์ทรวดทรงอย่างโจ่งแจ้งผิดกับแครอลที่สวมชุดกระโปรงในความทรงจำ

 

เวลาสามปีที่ผ่านไปเปลี่ยนจากเด็กหญิงเป็นคุณผู้หญิงได้ขนาดนี้เลยเหรอ เธอนึกสงสัย

 

“หวัดดี”

 

“ขอทางหน่อย” อีกคนเมินคำทักทายของเธอด้วยคำพูดขอทาง เธอกำลังเมินฉันอยู่นะแครล เสียงประท้วงดังเงียบๆในหัวของนาตาชาขณะที่เจ้าของห้องแทรกตัวเข้าไปในห้อง เธอมองตามอีกฝ่ายที่ทิ้งกระเป๋าสะพายไว้ระหว่างทางขณะที่ก้าวไปที่เตียงนอนขนาดใหญ่ วินาทีต่อมาร่างสูงๆนั่นก็ทิ้งตัวเองลงบนความนุ่มสีขาวอย่างอ่อนล้า

 

และเธอเองก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้างแล้วล่ะ

 

“แครล ฉันรู้ว่าเราไม่ได้เจอกันสามปี” นาตาชาเม้มปาก เดินเข้ามาในห้องนิดหน่อย “แต่เธอจะเมินฉันอย่างนี้ไม่ได้นะ”

 

น้ำเสียงหงุดหงิดเล็กๆติดน้อยใจหน่อยๆออกมาจากปากของคนเด็กกว่า เธอก้าวเข้ามาอีกนิด รู้สึกรื้นๆหัวตาขึ้นมา เธอรู้ว่ามันงี่เง่า แต่แครอลเป็นเพื่อนคนเดียวที่เธอไม่อยากให้เปลี่ยนไป “แครล”

 

“…”

 

เธอโบกมือไปมาตรงหน้าร่างเจ้าของห้อง แอบได้ยินเสียงกรนเบาๆออกมาเคล้ากับลมหายใจที่ดังสม่ำเสมอ แล้วเธอก็รู้ตัวว่าอีกฝ่ายหลับไปแล้ว ความน้อยใจเมื่อสักครู่อันตธานหายไปในพริบตา พอได้สติกลับมาก็ทำให้เธอสามารถสังเกตเห็นอะไรหลายๆอย่างได้ชัดเจนขึ้น

 

แครอลไม่รู้จักระวังตัวเองเหมือนเคย แต่คราวนี้ไม่ใช่เรื่องปีนป่ายอย่างเมื่อก่อน ครั้งนี้มันเป็นเรื่องของเสื้อผ้า เธอรู้ว่าพอผู้หญิงโตขึ้นอะไรๆมันก็จะชัดเจนและสวยงามขึ้น แต่มันไม่ใช่กับการที่อีกฝ่ายจะใส่เสื้อผ้าที่ช่วยปิดแค่ด้านหน้ากับช่วงล่าง แถมเธอยังรู้สึกว่ากางเกงที่แครอลสวมอยู่สั้นเกินไปด้วยซ้ำเมื่อมันอยู่บนขาที่เรียวยาวของร่างที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียง แผ่นหลังที่เปลือยเปล่าของอีกคนทำให้เธอรู้อีกว่าเพื่อนของเธอสวมชุดแบบนั้นทั้งที่ไม่มีบราช่วยปกปิดอะไรที่อยู่หลังเนื้อผ้าเลย

 

นั่นมันทำให้เธอหงุดหงิดมากๆอย่างหาสาเหตุไม่ได้ และมันเป็นความหงุดหงิดที่เธอเองก็ไม่เข้าใจด้วยเหมือนกัน

 

นาตาชาห้ามตัวเองไม่ให้ห่มผ้าให้แครอลบนเตียง แล้วเดินออกมาจากห้อง ก่อนจะปิดประตูก็บึนปากประชดประชันเจ้าของห้องที่หลับปุ๋ย ช่วยไม่ได้นะแครล เธอทำตัวให้น่าหงุดหงิดเอง

 

“ป่วยขึ้นมาไม่รู้ด้วยหรอกนะ”

 

แต่ก็ปิดประตูให้เบาที่สุดเพราะไม่อยากให้เสียงรบกวนแครอล

 

.

.

 

.

มื้อค่ำดำเนินไปอย่างราบรื่นและเรียบง่าย ผู้ใหญ่ทั้งสี่คนยังคงมีหัวข้อใหม่ๆมาเปิดประเด็นกันได้ไม่รู้จักจบซึ่งนั่นทำให้นาตาชาอดสงสัยไม่ว่าพวกท่านๆไม่รู้จักเหนื่อยกันบ้างเหรอ

 

“ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วนะจ๊ะหนูแนท” เจ้าของชื่อยิ้มสดใสให้คุณนายแดนเวอร์สก่อนจะตอบ

 

“สิบเจ็ดปีค่ะ” เธอได้ยินเสียงว้าวมาจากสักที่ในห้อง ก่อนจะรู้สึกว่ามีมือปริศนากำลังยีหัวเธอเบาๆจากด้านหลัง

 

“จะสิบเจ็ดขวบแล้วเหรอ” เจ้าของมือก็ก้มหน้ามาข้างๆแล้วทำหน้าล้อเลียน เสียงคุณนายแดนเวอร์สเอ็ดแครอลให้ไปนั่งที่ของตัวเองซึ่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ คนตัวสูงยักไหล่แล้วเดินอ้อยอิ่งไปที่นั่งของตัวเอง “มีแต่ของโปรดทั้งนั้นเลยอ่ะ”

 

“สำรวมหน่อยแครอล” คุณนายแดนเวอร์สดูอีกครั้งก่อนจะหันไปทางฝั่งที่คุณพ่อกับคุณแม่นั่งอยู่ “ไหนๆก็จะสิบเจ็ดแล้ว มีแพลนให้หนูแนทไปเรียนต่างประเทศหรือยังคะ?”

 

คุณพ่อกับคุณแม่มองหน้ากันก่อนที่คุณพ่อจะตอบโดยที่ไม่เอ่ยถามนาตาชาเลยสักนิด “โฮมสคูลก็ไม่ได้มีข้อเสียอะไร เรียนอย่างนี้ต่อไปเรื่อยๆก็ดีเหมือนกัน”

 

ความเงียบที่น่าอึดอัดเกิดขึ้นอย่างฉับพลันรอบตัวนาตาชา เธอไม่รู้ว่าควรทำหน้าแบบไหนออกไปดีถึงแม้ว่าผู้ใหญ่รอบข้างจะคงพูดคุยกันต่อไปแต่เสียงที่ว่าเหล่านั้นก็ดังห่างออกไปทุกที

 

แล้วสเต็กในจานก็มีบร็อกโคลี่สีเขียวๆสองสามชิ้นเข้ามาเพิ่มเติมจากฝั่งตรงข้าม แครอลขะมักเขม้นกับการตักผักจากจานตัวเองใส่ในจานของเธอพูดขึ้นอย่างติดตลก “กินผักเยอะๆแนท จะได้โตเร็วๆ”

 

นาตาชายกยิ้มข้างเดียวอย่างรู้ทัน “หาเรื่องไม่กินผักเหรอแครล” แล้วก็จัดการคืนผักใส่จานคนตรงข้าม แครอลทำหน้าเหยเกเมื่อเห็นปริมาณผักใบเขียวกลับมาเท่าเดิม

 

“ไม่เอาสิแนท” แครอลงอแงจะคืนผักใส่จานเธออีกรอบ แต่คราวนี้แนทไหวตัวทันยกจานหลบอย่างรวดเร็วก่อนที่ช้อนของแครลจะถึงจานของเธอ เสียงเอ็ดของคุณนายแดนเวอร์สเพื่อเตือนทั้งสองว่าอย่าเล่นบนโต๊ะอาหาร แต่ก็มีเสียงของคุณลุงแดนเวอร์สบอกกลับมาว่าไม่เป็นไร

 

ทั้งสองคนมองหน้ากันก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างสดใส

 

.

.

.

 

“คิดว่าจะไม่กลับมาซะแล้ว” แนทเปรยขึ้นขณะที่ยกจานมาวางข้างๆซิงค์ล้างจานที่มีคนตัวสูงกำลังใช้งานอยู่ พวกเธอปฏิเสธที่จะให้แม่บ้านมาทำส่วนนี้ด้วยเหตุผลที่ว่าอยู่คุยกันอีกสักหน่อยก่อนแยกย้ายกันไปนอน คุณแม่บ้านที่เห็นว่าทั้งสองไม่ได้เจอกันมานานจึงปล่อยให้คุณหนูทั้งสองของบ้านเข้าครัวช่วยกันล้างจานอย่างช่วยไม่ได้

 

คนตัวสูงยกไหล่ “กว่าจะหาวันว่างได้ก็ยากเหมือนกัน” แครลยื่นชี้นิ้วที่เต็มไปด้วยฟองน้ำยาล้างจาน “ส่งกองนั้นมาหน่อย”

 

“จริงๆเราน่าจะใช้เครื่องล้างนะแครล”

 

“ไม่จำเป็นหรอก” เธอบอก “อยากอยู่คุยต่ออีกหน่อย เราไม่ได้เจอกันตั้งสามปีนะแนท”

 

แนทพยักหน้า แล้วดันตัวขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ไม่สนว่าน้ำจากซิงค์อาจจะกระเด็นเปื้อนกระโปรงของเธอ “จริงๆเราไปคุยกันต่อที่ห้องเธอก็ได้นะแครล”

 

แครลชะงัก “ไม่ดีหรอก” เธอรีบตอบ

 

ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง แนทมองใบหน้าด้านข้างของแครล ต่างหูที่แกว่งไปมาตามจังหวะการเคลื่อนไหวเรียกความสนใจจากเธอ “แต่ก่อนกลัวเข็มไม่ใช่เหรอ”

 

แครอลยิ้มขณะที่ถอยออกมาเช็ดมือเพื่อเปลี่ยนให้แนทเข้ามาทำหน้าที่ส่วนที่เหลือ คนตัวเล็กยักไหล่แล้วกระโดดลงมา

 

“คนเราก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง” แครอลตอบคำถาม มองคนตัวเล็กที่กำลังทำเสียงเลียนแบบประโยคเมื่อสักครู่ของเธอแล้วหัวเราะออกมา

 

“ไม่แครล เธอไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิด” แนทโคลงหัวตามจังหวะการพูด” เธอยังอิดออดที่จะกินผักเหมือนเดิม หลับเร็วเหมือนเดิม และผมยังสีเดิม” ก่อนจะเอียงคอมองคนตัวสูงข้างๆทำหน้าราวกับว่าทั้งหมดที่เธอพูดเป็นความจริงแล้วหันกลับไปสนใจจานชามในซิงค์ตรงหน้า

 

แครอลพ่นลมหายใจก่อนจะส่ายหน้าเพราะความเอ็นดู เธอมองปอยผมแดงที่หลุดออกมาจากเปียสีแดงของแนท

 

“เชื่อเถอะแนท” มือเรียวเอื้อมไปที่ปอยผมนั้น จงใจให้ปลายนิ้วลากผ่านข้างแก้มเนียนนุ่มของเจ้าของผมเปียแล้วเกี่ยวเอาปอยผมที่ร่วงลงมาขึ้นทัดหูดให้อย่างเบามือ เธอพูดเสียงเบาลงแทบกลายเป็นกระซิบ

 

“ฉันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ”

 

 

.

TBC

Leave a comment