MCU · My Fiction

[ScarlettBrie]Unpredictable II

Unpredictable

I’ll be yours and you’ll be mine.

 

 

เสียงเพลงที่เคยกระหึ่มเมื่อก่อนหน้านี้ค่อยๆลดระดับเสียงลงเมื่อนาฬิกาตีไปที่เวลาปิดทำการของบาร์ นักท่องราตรีกำลังบอกลากัน บางคนที่โชคดีก็อาจจะได้คนคุยต่อตลอดทั้งคืน แต่บางคนก็เลือกที่จะปฎิเสธทุกๆความสัมพันธ์ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาเพราะความเหงาและเหล้าเบียร์

 

บรียังคงนั่งอยู่ที่เดิม กำลังมองเพื่อนสาวที่กำลังช่วยกันหอบหิ้วคนเมาอย่างเทสซ่าและคนอื่นๆในกลุ่ม เธอยกเครื่องดื่มในมือจนมันหมดแก้วก่อนจะส่งให้เด็กเสิร์ฟที่เดินผ่านมาเพื่อไปเก็บโต๊ะที่อยู่ถัดไป เสียงสการ์เล็ตดังเหนือหัว

 

“ไปช่วยอลิซหิ้วเทสซ่าหน่อยสิ” เจ้าของเสียงก้มหยิบกระเป๋าถือที่วางอยู่ข้างๆเธอ “คนที่รู้คอนโดเทสซ่าก็มีแค่เธอไม่ใช่เหรอ”

 

“เทสซ่าย้ายคอนโดบ่อยจะตาย” บรีค่อยๆลุกจากโซฟาแล้วเหยียดยืนเต็มความสูง “แน่ใจได้ไงว่าฉันจะรู้”

 

สการ์เล็ตยักไหล่ “เธอรู้แล้วกัน”

 

 

 

คนเมาถูกหิ้วขึ้นรถที่มีเจ้าของเป็นบรี ลาร์สัน เบาะหลังถูกจับจองจนเต็มพื้นที่จากร่างที่หลับไม่รู้สติของเทสซ่า อลิสที่ช่วยกันหิ้วเพื่อนออกมาก็แยกไปที่รถส่วนตัวของตนเอง ตอนนี้ก็เหลือแค่บรี สการ์เล็ต และเทสซ่าเจ้าแม่ปาร์ตี้

 

“บางทีฉันควรกลับกับอลิซ”

 

“บ้าน่า” พร้อมกดปุ่มสตาร์ทรถ “คอนโดเธอกับยัยนั่นอยู่คนละฝั่งกันเลย จะให้ยัยลิซขับวนไปวนมาเพื่ออะไรอ่ะ เอ้า ขึนมาบนรถได้แล้วสการ์เล็ต”

 

 

 

 

ล้อบดพื้นถนนไฮเวย์ที่มีเสาไฟส่องแสงสีส้มรายทางทอดตัวไปไกลสุดลูกหูลูกตา เสียงเพลงของนักร้องสายอินดี้ดังคลอเคลียกับความเงียบของบุคคลทั้งสามในรถ อันที่จริงควรบอกว่าสองซะมากกว่าเพราะอีกหนึ่งคนคงหลับไปอีกยาว สการ์เล็ตทอดสายตามองข้างทาง เสียงจากตำแหน่งคนขับดังเรียกความสนใจ

 

“จะหลับก็ได้นะ” บรีเหลือบมามองพูดเสียงเรียบ “เดี๋ยวถึงแล้วจะปลุก”

 

“ไม่เป็นไร” เธอตอบ ชี้นิ้วโป้งไปที่เบาะหลัง “ยังไงก็ต้องหิ้วเทสซ่าขึ้นห้องอยู่แล้ว”

 

คนขับหัวเราะหึๆ

 

“หายากนะเนี่ยที่เธอไม่เมาหัวราน้ำไปกับเทสซ่า” สการ์เล็ตเปรยขึ้นมา แล้วมองเจ้าของรถอย่างพิจารณา ฝ่ายถูกมองเบ้ปากนิดๆก่อนจะตบไฟเลี้ยวซ้ายวินาทีถัดมาก็ตอบคำครหาของผู้โดยสาร

 

“ก็เพราะฉันกำลังทำความเข้าใจอะไรบางอย่างอยู่ไง” ความเร็วรถค่อยๆชะลอลงจนมันจอดนิ่งหน้าทางขึ้นคอนโดเทสซ่า

 

“เรื่อง?” สการ์เล็ตปลดเข็มขัดนิรภัย เธอรอคอยคำตอบ เจ้าคนถูกถามชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะรีบดึงสติกลับมาแล้วตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก

 

“ร..เรื่องสีลิปสติกที่จะซื้อคืนให้เธอไง”

 

“อ๋อ” แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็เล่นเข้ามาในหัวของทั้งสอง ปากอวบอิ่มของสการ์เล็ตเม้มเข้าหากันในจังหวะที่บรีเผลอหลุบสายตาลงไปมอง ความรู้สึกนุ่มหยุ่นยังคงหลงเหลืออยู่พอให้รู้สึกถึง แต่เธอไม่แน่ใจว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออะไรที่ทำให้เธอไม่แน่ใจว่ามันใช่ความหอมหวานแบบเดียวกันกับในความคิดของเธอหรือเปล่า

 

เสียงกระซิบกระซาบดังมากจากส่วนหนึ่งในร่างกาย

 

ลองเช็คดูก่อนสิ มันก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา

         

ใช่ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก

 

ประกายแวววับในดวงคู่สวยของสการ์เล็ตกำลังสื่ออะไรบางอย่างออกมา บรีมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น

 

เจ้าของรถขยับตัวมาข้างหน้านิดหน่อยเป็นจังหวะเดี๋ยวกันกับอีกคนที่ขยับเข้ามาใกล้อีกนิดเช่นกัน

 

“เธอเคย…” บรีเว้นจังหวะ ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงอย่างตื่นเต้น “…จูบใครสักคนแล้วไม่แน่ใจมั้ย”

 

ใกล้กันเข้ามาอีกนิดจนได้ยินเสียงลมหายใจและได้กลิ่นน้ำหอมของอีกฝ่าย

 

“จริงๆมันก็นานแล้วที่ฉันทะเลาะกับเสียงในหัวของตัวเองว่าคนๆนี้จะใช่หรือเปล่า”

 

ปลายนิ้วเรียวแตะสัมผัสกัน หยอกล้อเล่นกับฝ่ามือของกันและกันอย่างอ้อยอิ่ง

 

เสียงแหบพร่ากระซิบตอบกลับมา

 

“ทางเดียวที่จะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่” สการ์เล็ตแย้มยิ้ม มองแพขนตาของอีกฝ่ายที่หลุบสายตาลงไปมองนิ้วมือที่เกี่ยวพันกันกลางอากาศ เธอขยับเข้าใกล้อีกนิด สูดกลิ่นน้ำหอมของอีกคนอย่างลืมตัว “มันก็ต้องลองดูไม่ใช่เหรอ”

 

บรีเบนสายตาไปที่ใบหน้าของสการ์เล็ต เธอกำลังเอียงคอมองมาด้วยแววตาที่ทั้งท้ายทายและชักชวนให้เข้าไปค้นหาคำตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างติดเขินอาย แล้วตอบรับคำท้าท้ายที่แสนชวนเชิญในดวงตาคู่นั้น

 

ริมฝีปากประทับลงไปอย่างแผ่วเบา หัวสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะก่อนที่มันจะกลับมาประมวลผลว่าความนุ่มหยุ่นและหอมหวานนี้เป็นอันเดียวกันกับก่อนหน้านี้ รู้สึกเหมือนในตัวถูกแทนที่ด้วยน้ำหวานหอมๆรสพิเศษที่มีเพียงเธอสองคนเท่านั้นที่บอกได้ว่ามันคือรสแบบไหน

 

เธอผละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง

 

“แน่ใจหรือยัง?”

 

แน่ใจแล้ว  “ยังไม่เท่าไหร่ คงต้องลองอีกที”

 

พวกเราหัวเราะคิกคักก่อนจะโน้มตัวเข้าหาริมฝีปากของกันและกันอีกรอบ

 

จากแผ่วเบาเริ่มร้อนแรง

 

แรกเริ่มแค่สัมผัสสู่การรุกล้ำเพื่อค้นหาความหวานและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น

 

ก่อนที่มันจะเลยเถิดไปไกลกว่านั้นก็มีเสียงปริศนา ไม่สิ ต้องบอกว่าเสียงของคนที่ถูกลืมดังมาจากเบาะหลังเสียมากกว่า

 

“เบาหน่อยสาวๆ เทสซ่าคนดียังอยู่ตรงนี้นะคะพวกหล่อน”

 

ทั้งคู่รีบผละจากกันทำให้เกิดเสียงจุ้บน่ารักๆกลางอากาศ สการ์เล็ตรีบนั่งให้ตัวเล็กที่สุดที่แน่ใจว่าเทสซ่าจะไม่เห็นหล่อน ส่วนเจ้าของรถก็กระแอ่มไออย่างเลิ่กลั่กแล้วหันมาหาเธอ

 

“อ…อ้าวเทสซ่า” กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ให้ฉันขึ้นไปส่งมั้ย หมายถึง ถ้า เธอยังไม่สร่างเมา อะไรประมาณนี้” บรีพยายามแสดงความเป็นห่วงทั้งๆที่หน้าเห่อร้อนและหัวใจก็เต้นแรงจนหูอื้อ

 

เทสซ่ายิ้มเจ้าเล่ห์ พลางคิดในใจว่า รู้ตัวกันสักทีสินะพวกเธอ ก่อนตอบปฏิเสธความหวังดีของเพื่อนสาว “ไม่อ่ะ หายเมาแล้ว”

 

“อ่าห่ะ”

 

“โอเค ฉันไม่เป็นกขคง.หรืออะไรของพวกเธอแล้ว ฝันดีนะจ๊ะสการ์เล็ต”

 

คนถูกเอ่ยถึงตอบกลับประโยคแบบเดียวกัน เทสซ่าลงจากรถไปแต่ก็ไม่วายที่จะตะโกนไล่หลังตามมา

 

“พวกเธอเลือกสีลิปสติกได้เข้ากันดีนะ”

 

 

เสียงถอนหายใจจากฝั่งซ้ายเรียกเสียงหัวเราะจากบรี

 

“ขำอะไรขนาดนั้น”

 

“ไม่รู้ดิ” เธอตอบก่อนจะเงียบไปแล้ววินาทีถัดมาก็พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี “เมื่อกี้มันสุดยอดมากๆ” ก่อนจะหันไปยิ้มยียวนให้สการ์เล็ตที่กลอกตาเป็นคำตอบกลับมา

 

“ไม่อายเลยนะ”

 

“อายทำไม โตๆกันหมดแล้ว ว่าแต่เธอจะไปค้างที่คอนโดฉันก่อนหรือจะกลับบ้านเธอเลยดี” ความเงียบทอดตัวลงมาในอากาศ สการ์เล็ตเอนพิงเบาะแบบเต็มๆหลัง รู้สึกผ่อนคลายจนต้องยิ้มออกมา

 

“ไปที่บ้านฉันเลยแล้วกัน”

 

“อืม นั่นสิ ไหนๆก็ดึกแล้ว” คนขับพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะนั่งตัวตรงจดจ่อกับเส้นถนนตรงหน้า

 

“ฉันหมายถึงย้ายเข้ามาอยู่บ้านด้วยกันเลยดีกว่า”

 

บรีหัวเราะร่วน “ไม่ค่อยจะรีบเลยนะ”

 

สการ์เล็ตยักไหล่ “จะช้าอยู่ทำไม โตๆกันหมดแล้ว”

 

ริมฝีปากบางของคนขับค่อยๆคลี่ยิ้มกว้างออกมา

 

“นั่นสินะ”

Leave a comment