Unpredictable
I’ll be yours and you’ll be mine.
เสียงเพลงที่เคยกระหึ่มเมื่อก่อนหน้านี้ค่อยๆลดระดับเสียงลงเมื่อนาฬิกาตีไปที่เวลาปิดทำการของบาร์ นักท่องราตรีกำลังบอกลากัน บางคนที่โชคดีก็อาจจะได้คนคุยต่อตลอดทั้งคืน แต่บางคนก็เลือกที่จะปฎิเสธทุกๆความสัมพันธ์ที่กำลังเริ่มก่อตัวขึ้นมาเพราะความเหงาและเหล้าเบียร์
บรียังคงนั่งอยู่ที่เดิม กำลังมองเพื่อนสาวที่กำลังช่วยกันหอบหิ้วคนเมาอย่างเทสซ่าและคนอื่นๆในกลุ่ม เธอยกเครื่องดื่มในมือจนมันหมดแก้วก่อนจะส่งให้เด็กเสิร์ฟที่เดินผ่านมาเพื่อไปเก็บโต๊ะที่อยู่ถัดไป เสียงสการ์เล็ตดังเหนือหัว
“ไปช่วยอลิซหิ้วเทสซ่าหน่อยสิ” เจ้าของเสียงก้มหยิบกระเป๋าถือที่วางอยู่ข้างๆเธอ “คนที่รู้คอนโดเทสซ่าก็มีแค่เธอไม่ใช่เหรอ”
“เทสซ่าย้ายคอนโดบ่อยจะตาย” บรีค่อยๆลุกจากโซฟาแล้วเหยียดยืนเต็มความสูง “แน่ใจได้ไงว่าฉันจะรู้”
สการ์เล็ตยักไหล่ “เธอรู้แล้วกัน”
คนเมาถูกหิ้วขึ้นรถที่มีเจ้าของเป็นบรี ลาร์สัน เบาะหลังถูกจับจองจนเต็มพื้นที่จากร่างที่หลับไม่รู้สติของเทสซ่า อลิสที่ช่วยกันหิ้วเพื่อนออกมาก็แยกไปที่รถส่วนตัวของตนเอง ตอนนี้ก็เหลือแค่บรี สการ์เล็ต และเทสซ่าเจ้าแม่ปาร์ตี้
“บางทีฉันควรกลับกับอลิซ”
“บ้าน่า” พร้อมกดปุ่มสตาร์ทรถ “คอนโดเธอกับยัยนั่นอยู่คนละฝั่งกันเลย จะให้ยัยลิซขับวนไปวนมาเพื่ออะไรอ่ะ เอ้า ขึนมาบนรถได้แล้วสการ์เล็ต”
ล้อบดพื้นถนนไฮเวย์ที่มีเสาไฟส่องแสงสีส้มรายทางทอดตัวไปไกลสุดลูกหูลูกตา เสียงเพลงของนักร้องสายอินดี้ดังคลอเคลียกับความเงียบของบุคคลทั้งสามในรถ อันที่จริงควรบอกว่าสองซะมากกว่าเพราะอีกหนึ่งคนคงหลับไปอีกยาว สการ์เล็ตทอดสายตามองข้างทาง เสียงจากตำแหน่งคนขับดังเรียกความสนใจ
“จะหลับก็ได้นะ” บรีเหลือบมามองพูดเสียงเรียบ “เดี๋ยวถึงแล้วจะปลุก”
“ไม่เป็นไร” เธอตอบ ชี้นิ้วโป้งไปที่เบาะหลัง “ยังไงก็ต้องหิ้วเทสซ่าขึ้นห้องอยู่แล้ว”
คนขับหัวเราะหึๆ
“หายากนะเนี่ยที่เธอไม่เมาหัวราน้ำไปกับเทสซ่า” สการ์เล็ตเปรยขึ้นมา แล้วมองเจ้าของรถอย่างพิจารณา ฝ่ายถูกมองเบ้ปากนิดๆก่อนจะตบไฟเลี้ยวซ้ายวินาทีถัดมาก็ตอบคำครหาของผู้โดยสาร
“ก็เพราะฉันกำลังทำความเข้าใจอะไรบางอย่างอยู่ไง” ความเร็วรถค่อยๆชะลอลงจนมันจอดนิ่งหน้าทางขึ้นคอนโดเทสซ่า
“เรื่อง?” สการ์เล็ตปลดเข็มขัดนิรภัย เธอรอคอยคำตอบ เจ้าคนถูกถามชะงักไปนิดหน่อยก่อนจะรีบดึงสติกลับมาแล้วตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก
“ร..เรื่องสีลิปสติกที่จะซื้อคืนให้เธอไง”
“อ๋อ” แล้วภาพเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนก็เล่นเข้ามาในหัวของทั้งสอง ปากอวบอิ่มของสการ์เล็ตเม้มเข้าหากันในจังหวะที่บรีเผลอหลุบสายตาลงไปมอง ความรู้สึกนุ่มหยุ่นยังคงหลงเหลืออยู่พอให้รู้สึกถึง แต่เธอไม่แน่ใจว่าเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์หรืออะไรที่ทำให้เธอไม่แน่ใจว่ามันใช่ความหอมหวานแบบเดียวกันกับในความคิดของเธอหรือเปล่า
เสียงกระซิบกระซาบดังมากจากส่วนหนึ่งในร่างกาย
ลองเช็คดูก่อนสิ มันก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา
ใช่ ไม่มีอะไรเสียหายหรอก
ประกายแวววับในดวงคู่สวยของสการ์เล็ตกำลังสื่ออะไรบางอย่างออกมา บรีมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น
เจ้าของรถขยับตัวมาข้างหน้านิดหน่อยเป็นจังหวะเดี๋ยวกันกับอีกคนที่ขยับเข้ามาใกล้อีกนิดเช่นกัน
“เธอเคย…” บรีเว้นจังหวะ ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรงอย่างตื่นเต้น “…จูบใครสักคนแล้วไม่แน่ใจมั้ย”
ใกล้กันเข้ามาอีกนิดจนได้ยินเสียงลมหายใจและได้กลิ่นน้ำหอมของอีกฝ่าย
“จริงๆมันก็นานแล้วที่ฉันทะเลาะกับเสียงในหัวของตัวเองว่าคนๆนี้จะใช่หรือเปล่า”
ปลายนิ้วเรียวแตะสัมผัสกัน หยอกล้อเล่นกับฝ่ามือของกันและกันอย่างอ้อยอิ่ง
เสียงแหบพร่ากระซิบตอบกลับมา
“ทางเดียวที่จะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่” สการ์เล็ตแย้มยิ้ม มองแพขนตาของอีกฝ่ายที่หลุบสายตาลงไปมองนิ้วมือที่เกี่ยวพันกันกลางอากาศ เธอขยับเข้าใกล้อีกนิด สูดกลิ่นน้ำหอมของอีกคนอย่างลืมตัว “มันก็ต้องลองดูไม่ใช่เหรอ”
บรีเบนสายตาไปที่ใบหน้าของสการ์เล็ต เธอกำลังเอียงคอมองมาด้วยแววตาที่ทั้งท้ายทายและชักชวนให้เข้าไปค้นหาคำตอบ ก่อนจะหัวเราะเบาๆอย่างติดเขินอาย แล้วตอบรับคำท้าท้ายที่แสนชวนเชิญในดวงตาคู่นั้น
ริมฝีปากประทับลงไปอย่างแผ่วเบา หัวสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะก่อนที่มันจะกลับมาประมวลผลว่าความนุ่มหยุ่นและหอมหวานนี้เป็นอันเดียวกันกับก่อนหน้านี้ รู้สึกเหมือนในตัวถูกแทนที่ด้วยน้ำหวานหอมๆรสพิเศษที่มีเพียงเธอสองคนเท่านั้นที่บอกได้ว่ามันคือรสแบบไหน
เธอผละออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง
“แน่ใจหรือยัง?”
แน่ใจแล้ว “ยังไม่เท่าไหร่ คงต้องลองอีกที”
พวกเราหัวเราะคิกคักก่อนจะโน้มตัวเข้าหาริมฝีปากของกันและกันอีกรอบ
จากแผ่วเบาเริ่มร้อนแรง
แรกเริ่มแค่สัมผัสสู่การรุกล้ำเพื่อค้นหาความหวานและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ก่อนที่มันจะเลยเถิดไปไกลกว่านั้นก็มีเสียงปริศนา ไม่สิ ต้องบอกว่าเสียงของคนที่ถูกลืมดังมาจากเบาะหลังเสียมากกว่า
“เบาหน่อยสาวๆ เทสซ่าคนดียังอยู่ตรงนี้นะคะพวกหล่อน”
ทั้งคู่รีบผละจากกันทำให้เกิดเสียงจุ้บน่ารักๆกลางอากาศ สการ์เล็ตรีบนั่งให้ตัวเล็กที่สุดที่แน่ใจว่าเทสซ่าจะไม่เห็นหล่อน ส่วนเจ้าของรถก็กระแอ่มไออย่างเลิ่กลั่กแล้วหันมาหาเธอ
“อ…อ้าวเทสซ่า” กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “ให้ฉันขึ้นไปส่งมั้ย หมายถึง ถ้า เธอยังไม่สร่างเมา อะไรประมาณนี้” บรีพยายามแสดงความเป็นห่วงทั้งๆที่หน้าเห่อร้อนและหัวใจก็เต้นแรงจนหูอื้อ
เทสซ่ายิ้มเจ้าเล่ห์ พลางคิดในใจว่า รู้ตัวกันสักทีสินะพวกเธอ ก่อนตอบปฏิเสธความหวังดีของเพื่อนสาว “ไม่อ่ะ หายเมาแล้ว”
“อ่าห่ะ”
“โอเค ฉันไม่เป็นกขคง.หรืออะไรของพวกเธอแล้ว ฝันดีนะจ๊ะสการ์เล็ต”
คนถูกเอ่ยถึงตอบกลับประโยคแบบเดียวกัน เทสซ่าลงจากรถไปแต่ก็ไม่วายที่จะตะโกนไล่หลังตามมา
“พวกเธอเลือกสีลิปสติกได้เข้ากันดีนะ”
เสียงถอนหายใจจากฝั่งซ้ายเรียกเสียงหัวเราะจากบรี
“ขำอะไรขนาดนั้น”
“ไม่รู้ดิ” เธอตอบก่อนจะเงียบไปแล้ววินาทีถัดมาก็พูดขึ้นอย่างอารมณ์ดี “เมื่อกี้มันสุดยอดมากๆ” ก่อนจะหันไปยิ้มยียวนให้สการ์เล็ตที่กลอกตาเป็นคำตอบกลับมา
“ไม่อายเลยนะ”
“อายทำไม โตๆกันหมดแล้ว ว่าแต่เธอจะไปค้างที่คอนโดฉันก่อนหรือจะกลับบ้านเธอเลยดี” ความเงียบทอดตัวลงมาในอากาศ สการ์เล็ตเอนพิงเบาะแบบเต็มๆหลัง รู้สึกผ่อนคลายจนต้องยิ้มออกมา
“ไปที่บ้านฉันเลยแล้วกัน”
“อืม นั่นสิ ไหนๆก็ดึกแล้ว” คนขับพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนจะนั่งตัวตรงจดจ่อกับเส้นถนนตรงหน้า
“ฉันหมายถึงย้ายเข้ามาอยู่บ้านด้วยกันเลยดีกว่า”
บรีหัวเราะร่วน “ไม่ค่อยจะรีบเลยนะ”
สการ์เล็ตยักไหล่ “จะช้าอยู่ทำไม โตๆกันหมดแล้ว”
ริมฝีปากบางของคนขับค่อยๆคลี่ยิ้มกว้างออกมา
“นั่นสินะ”